ภาพยนตร์ไซไฟแฟนตาซีเรื่องล่าสุดจาก Disney เรื่องราวของสาวน้อยที่มีความคิดและความหวังว่าสักวันเราจะหาทางเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นได้ วันหนึ่ง เธอได้รับเข็มกลัดประหลาดที่ทำให้เธอได้เห็นโลกอีกที่หนึ่งที่เรียกกันว่า Tomorrowland เมื่อเวลาที่เธอสัมผัส เธอจึงออกเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบให้ได้ว่าเมืองที่เธอเห็นนั้นมีอยู่จริง หรือเป็นเพียงภาพลวงตา...
บอกได้เลยครับว่า ต้าติดตามข่าวของหนังเรื่องนี้มานานมากกกกกกกกก ยิ่งได้เห็นข่าว เห็นตัวอย่าง รวมถึงตัวอย่าง 7 นาที จาก Avengers : Age of Ultron ตอนไปดู Imax ด้ววยแล้ว อือหือ......ต่อมอยากนี่กระตุกรัวๆเลยทีเดียว ซึ่ง Tomorrowland ก็ต้องเล่าให้เพื่อนๆฟังกันสักนิดนึงก่อนครับว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากผลิตโดย Disney แล้ว ยังถือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเป็น Original Movie โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องเล่นใน Disneyland เป็นลำดับที่ 3 (ลำดับแรก คือ Pirates of the Caribbean และลำดับที่ 2 คือ Haunted Massion)
ทีนี้เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Tomorrowland ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าเป็นหนังไซไฟแฟนตาซี ที่มีคอนเซปต์ว่า “อะไรๆก็เป็นไปได้” เป็นเหมือนการตอบโจทย์ในด้านจินตนาการวิทยาศาสตร์แบบหลุดโลกไปเลย ทุกสิ่งทุกอย่างทำออกมาได้สมจริงราวกับเวทมนตร์เนรมิตโลกนี้ขึ้นมาได้จริงๆ รวมถึงการเล่าเรื่องต่างๆที่สามารถสนุกได้ทั้งครอบครัว ตัวหนังแม้จะมีความเป็นแอคชั่นไซไฟเร้าใจ และมีหลักการทางวิทยาศาสตร์มากมายที่ใช้ในการเล่าเรื่อง แต่ด้วยความเป็นดิสนีส์ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งสบายใจได้ถึงความปลอดภับสำหรับเด็กแน่นอน
แต่เมื่อมองในมุมกลับกัน กลายเป็นวาสความเป็น “ดิสนีส์” นี่แหละที่ทุกคนมองว่ามันไปไม่สุดทาง... ส่วนตัวต้าแล้วคิดว่าหนังพาไปสุดทางนะครับ เพียงแต่การขยี้อารมณ์หรือเอคชั่นต่างๆอาจจะดูเบาไปสำหรับคนที่คาดหวังว่าจะได้ชมภาพยนตร์ไซไฟเอคชั่นล้างผลาญนั้นเองซึ่งตรงนี้แหละครับ ที่น่าจะเป็นจุดที่ต้าว่าแอบพลาดไปนิด แถมมีจังหวะเนือยบ้างในช่วงท้าย แต่จริงๆแล้วต้าก็ยังชอบอยู่นะครับ ทั้งในเรื่องของไอเดีย การเล่าเรื่องและอีกหลายๆส่วนที่ทำให้หนังเรื่องนี้ทำให้เราเพ้อฝันได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว ถึงขนาดนักวิจารณ์หลายคนบอกเลยว่า Tomorrowland คือ Hogwart ในโลกของวิทยาศาสตร์เลยทีเดียว
สำหระบ 2 นักแสดงนำอย่างป๋าจอร์จ คลูนีย์ และสาวบริท โรเบิร์ตสัน ที่ต้องยกนิ้วให้เลยทีเดียวเพราะสามารถโชว์ฝีมือการแสดงได้ดีทีเดียว แม้จะไม่ค่อยมีฉากดราม่าเอาไว้ให้โชว์พลังการแสดงมากนัก แต่ในด้านแอคชั่นแฟนตาซีล่ะก็ สอบผ่านฉลุยครับ อย่างด้านป๋านั้น แม้อายุจะย่างเข้า 54 ปีไปแล้ว แต่อย่างดูเท่มากๆเลยทีเดียว เล่นลบความสบประมาทที่มีหลายคนทักว่าป๋าแกจะเล่นแล้วนี้แล้วว่า “จะไหวเหรอ...” ไหวไม่ไหวก็ต้องไปพิสูจน์เองนะครับ
หลายๆคนอาจจะบอกว่า “เฮ้ย! ฉันไม่เก่งเรื่องวิทยาศาสตร์เลยนะ จะไหวเหรอ?” ไม่ต้องห่วงครับ วางข้อนั้นพักไว้แปบนึงก่อน แล้วมองให้เห็นถึงแก่นที่หนังอยากบอก ถ้าคุณเข้าใจ แสดงว่า....ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Tomorrowland ครับ
ต้าเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เขาได้เขียนไว้ว่า “สมองของคนเรานั้นก็เป็นเหมือนเสาวิทยุ ถ้าเราคิดถึงแต่สิ่งดีๆ สิ่งดีๆก็จะเข้ามาในชีวิตของเรา แต่ถ้าเราวันไหนเราคิดถึงแต่เรื่องแย่ๆ วันนั้นจะมีแต่เรื่องแย่ๆตามมา” ต้าเห็นด้วยนะครับ เพราะหากเราคิดถึงแต่สิ่งไม่ดี ในจิตใจของเราก็จะห่อเหี่ยวและสิ้นหวังตามมา กลายเป็นจุดเริ่มต้นของโรคซึมเศร้าไปโดยปริยายเลย...จริงไหมล่ะครับ? ความเชื่อก็เหมือนกันครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเชื่อว่า “เฮ้ย! เราทำได้” วันนั้นจิตใจของเราจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานแบบไม่ต้องขอกำลังใจจากใครเลย เพราะฉะนั้น อย่างที่หลายๆคนบอกครับ กำลังใจที่ดีที่สุดมาจากตัวเราเอง หากวันนี้เรายังไม่เชื่อในตัวเราเองแล้ว จะให้ใครมาเชื่อในตัวเราได้ล่ะครับ...
ใครที่กำลังท้อแท้สิ้นหวัง ขอให้เชื่อครับ....ว่าสักวันหนึ่งคุณจะต้องทำได้!
ขอขอบคุณบัตรชมภาพยนตร์จาก DisneyFilmFan ด้วยนะครับ
ใครที่อยากติดตามข่าวสารจาก Disney อย่าลืมแวะเวียนเข้าไปอกด Like กันนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น