ต้องบอกเลยครับว่า Pitch Perfect ในภาคแรกนั้นต้าพลาดชมในโรงภาพยนตร์ไปแบบน่าเสียดายมากๆ เพราะจำกัดโรงฉายและเวียนไปฉายโรงต่างๆด้วย พลาดเลยงานนี้ แต่ก็มีโอกาสได้มาดูในแบบ DVD อยู่นะครับ ซึ่งบอกเลยครับว่าไม่ได้ชอบนะครับ...แต่ตกหลุมรักเลยล่ะ! หนังสามารถดึงเอาประสบการณ์ในช่วงชีวิตของมหาลัยวัยมันออกมาได้น่าสนใจ ไม่น่าแปลกเใจลยที่ถ้าใครได้ดูแล้วคงจะต้องชวนให้คิดถึงบรรดาขาซิ่งก๊วนเกลอทั้งหลายแน่นอน แม้จะเป็นหนังวัยรุ่น Feel good ที่หลายๆคนอาจจะเดาตอนจบได้ไม่ยาก แต่อย่างที่ต้าเคยพูดนั้นแหละครับ เสน่ห์จริงๆมันไม่ได้อยู่ที่ตอนจบ มันอยู่ที่ระหว่างทางต่างหาก!
กลับมาในภาค 2 นี้ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูภาคแรกมาก็อาจจะมีงงๆบ้างนิดนึง แต่ไม่มากนัก แก้ไขได้ด้วยการหาภาคแรกมาดู(ฮา...) แต่มันแค่นิดหน่อยเองครับ ไม่ดูภาคแรกก็น่าจะเข้าใจภาคนี้ได้ไม่ยาก แต่อาจจะงงที่มาที่ไปเล็กน้อย ถ้าอยากดูก็ลองหาภาค 1 มาดูก่อนก็ได้ครับ ในภาคนี้มีฉากฮาๆ และฉากประทับใจหลายฉาก หลายๆอย่างถูกพัฒนาจากภาคแรกมาเยอะมากๆ โดยเฉพาะเพลงและการแสดงที่สาวๆโชว์พาวด้วยการร้องเองทุกเพลงเลยทีเดียว แถมงานนี้ คุณเจ้ Elizabeth Banks หรือมาดามเอฟฟี่(จากฮังเกอร์ เกมส์) ก็โชว์ฝีมือทั้งโปรดิวซ์เอง, กำกับเอง แถมเล่นเองด้วย สุดยอด! จุดที่ไม่ชอบส่วนตัวแล้วคิดว่าโชว์ในเรื่องน่าขะแกรนด์ได้มากกว่านี้นิดนึงนะครับ แต่นี่ก็แกรนด์แล้วนะ สงสัยฝังใจกับโชว์สุดท้ายในภาคแรกแน่เลย
ความเป็นเพื่อนที่หลายๆคนชอบตั้งคำถามกัน มันมีหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและถามหาความมั่นคงในมิตรภาพ ไม่ว่าด้วยเหตุผล หรืออารมณ์ใดก็ตาม ในฐานะเพื่อนคนนึงคง ไม่มีใครหรอกครับที่อยากจะคอยระแวงจับผิดเพื่อนกันตลอด เข้าใจครับว่ามันเกิดความผิดปกติขึ้น แต่เพื่อนเรารู้ดีเสมอ แม้แค่มองตาก็เข้าใจกันได้ มิตรภาพที่มีโปรดระลึกไว้เสมอเถอะครับว่าถ้ามันเกิดจากหัวใจบริสุทธิ์จริงๆ สิ่งนั้นจะสวยงามและล้ำค่ามากๆ จงรักษามันไว้นะครับ "แม้จะพบกันแค่หนึ่งวัน แต่เราจะเป็นเพื่อนกันจนวันตาย"
ขอขอบคุณ UIP Thaialnd และ Nuffnang สำหรับตั๋วชมภาพยนตร์ด้วยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น