สวัสดีครับเพื่อนๆ
ถ้าจะพูดถึงสภาพแวดล้อมเดี๋ยวนี้มันโหดร้ายจริงๆนะครับ ทั้งแดดแผดเผาเหมือนไออุ่นส่งตรงจากนรก หรือบางวันก็ฝนตกเหมือนเปิดก็อกน้ำเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับความเครียด และโรคภัยอีกหลากหลายที่สตนบายรอเราอยู่หน้าบ้านนะครับ เฮ้อ.....ได้ยินแค่นี้ก็เปนื่อยซะแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ ขอแนะนำตัวช่วยพิเศษให้เพื่อนๆรู้จักกันหน่อยดีกว่า กับนี่เลย วิตามินจาก Harris Life Sciences
หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อกันเท่าไหร่นะครับ เพราะว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งจะนำเข้ามาในประเทศไทย(แต่จริงๆมีชื่ออยู่ในต่างประเทศมาสักพักแล้วล่ะครับ) ถือเป็นสินค้ากลุ่มอาหารเสริมคุณภาพสูงจากนิวซีแลนด์ ซึ่งจัดเป็นเกรด import ที่มีราคาประหยัด เพราะส่งมาจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ดังนั้น ด้วยราคาที่ไม่ได้สูงมากนัก แต่ได้ของเกรด Premium เลยทีเดียว เพื่อนๆที่รักสุขภาพถูกใจแน่นอนเพราะได้ของดี แถมถูกอีกแน่ะ ถูกใจคนไม่มีตังค์อย่างต้าจริงๆนะ ฮ่าๆๆๆ
จริงๆผลิตภัณฑ์ของ Harris มีอยู่หลายตัวเลยครับอย่างตัวอย่างที่ต้านำรูปมาใช้นั้นเอง ไหนๆแล้วก็ แนะนำเรียงตัวสั้นๆแล้วกันนะครับ เผื่อมีเพื่อนๆสนใจกันครับ
แต่ตัวต้าเอง เลือกซื้อมาลองทานก็เป็นเจ้า 2 ตัวนี้เลยครับตัว Ginkgo และ Fishoil ครับ ราคาก็ไม่แพงนะครับ น้ำมันปลาขนาด 80 เม็ด ราคา 890 บาท ส่วนขวด Ginkgo ขนาด 60 เม็ด ราคาอยู่ที่ 649 บาท ถือว่าไม่แพงเกินไปนะครับ ราคากำลังดีครับ
มาลองดูเม็ดยาจากเจ้า 2 ขวดนี้กันบ้าง ตัวน้ำมันปลาเป็นแคปซูลใสครับ ขนาดอาจจะดูใหญ่สำหรับคนไม่เคยกินนะครับ อันนี้เพื่อนต้าบอกเพราะเพื่อนต้าไม่เคยกันครับ แต่ต้าเลยจุดนั้นมาแล้วครับ ฮ่าๆๆๆ เพราะฉะนั้นสบายมาก ส่วนของขวดจิงโก๊ะ เป็นเม็ดสกัดครับ
หลังจากกินมาแล้ว 1 เดือน
อันนี้ต้องเล่าให้ฟังก่อนนะครับว่า ต้าเป็นโรคลมชักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการบำรุงร่างกาย ต้าเลยต้องบำรุงมากกว่าเขาเพื่อนเป็นพิเศษเลย ทั้งการกินหรือการออกกำลังกาย(ออกแรงไม่ได้อีก วู้) ดูแลจัดการกันเป็นพิเศษ หลังจากกินมา 1 เดือน บอกตามตรงนะครับ...ยังไม่เห็นผลอะไรเลย อ้าว.....จริงครับ แต่ว่าอย่าเพิ่งตกใจนะครับ เพราะการกินวิตามินมันไมไ่ด้หมายความว่ามันจะดีขึ้นทันควันทันตานะครับ ถ้าดีทันตาแบบวันวสองวัน อันนี้น่ากลัวแล้วครับ แต่ถ้าถามว่ามีอะไรเปลี่ยนไปไหม? มันก็มีนะครับ สุขภาพดีขึ้น เดี๋ยวนี้ตื่นเช้าๆก็สดชื่นนะครับ หน้าตาก็ไบร์ทจนหลายๆคนทักเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหมนะครับ แต่ที่เห็นชัดๆ คือ ช่วงที่เขากำลังฮิตป่วยๆกัน เราก็รอดมาได้เฉยเลย อันนี้ก็แอบชื่นชมว่าคงจะเป็นเพราะเจ้า 2 ขวดนี้ด้วยแหละครับ
ส่วนถ้าถามว่าจะซื้อต่อไหม? ต้าว่าต้าซื้อนะ เพราะว่ามันไม่แพงเกินไป คือ อาจจะไม่ได้เห็นผลทันตาก็จริง แต่อย่างน้อยช่วงทำงานยุ่งๆวุ่นวาย เราอาจจะลืมดูแลตัวเองไป เจ้าพวกนี้ก็คอยซัพพอร์ตเราได้ดีเลย ต้าว่ามีตัวช่วยก็ดีกว่านะครับ จริงไหมล่ะครับ อย่างน้อยก็ดีกว่ารอให้ป่วยแล้วค่อยมากินตอนนั้น อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้นะครับ
ใครสนใจอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม ก็เข้าไปดูกันได้เลยครับที่
https://www.facebook.com/harristhailandinfo?fref=ts
หรือ instagram.com/Harrislifesciences
ถ้าจะพูดถึงสภาพแวดล้อมเดี๋ยวนี้มันโหดร้ายจริงๆนะครับ ทั้งแดดแผดเผาเหมือนไออุ่นส่งตรงจากนรก หรือบางวันก็ฝนตกเหมือนเปิดก็อกน้ำเลยทีเดียว นี่ยังไม่นับความเครียด และโรคภัยอีกหลากหลายที่สตนบายรอเราอยู่หน้าบ้านนะครับ เฮ้อ.....ได้ยินแค่นี้ก็เปนื่อยซะแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ ขอแนะนำตัวช่วยพิเศษให้เพื่อนๆรู้จักกันหน่อยดีกว่า กับนี่เลย วิตามินจาก Harris Life Sciences
หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยได้ยินชื่อกันเท่าไหร่นะครับ เพราะว่าเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งจะนำเข้ามาในประเทศไทย(แต่จริงๆมีชื่ออยู่ในต่างประเทศมาสักพักแล้วล่ะครับ) ถือเป็นสินค้ากลุ่มอาหารเสริมคุณภาพสูงจากนิวซีแลนด์ ซึ่งจัดเป็นเกรด import ที่มีราคาประหยัด เพราะส่งมาจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง ดังนั้น ด้วยราคาที่ไม่ได้สูงมากนัก แต่ได้ของเกรด Premium เลยทีเดียว เพื่อนๆที่รักสุขภาพถูกใจแน่นอนเพราะได้ของดี แถมถูกอีกแน่ะ ถูกใจคนไม่มีตังค์อย่างต้าจริงๆนะ ฮ่าๆๆๆ
จริงๆผลิตภัณฑ์ของ Harris มีอยู่หลายตัวเลยครับอย่างตัวอย่างที่ต้านำรูปมาใช้นั้นเอง ไหนๆแล้วก็ แนะนำเรียงตัวสั้นๆแล้วกันนะครับ เผื่อมีเพื่อนๆสนใจกันครับ
- Harris Marine Q10 Plus Collagen บำรุงผิวจาก Collagen และ Q10 สกัดจากปลาทะเล ช่วยให้ผิวหน้าเปล่างปลั่ง ดูอ่อนเยาว์ และบำรุงไขข้อ
- Harris Ginkgo สกัดจากใบเป๊ะก๋วยช่วยต้านอนุมูลอิสระ และบำรุงสมอง เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์
- Harris Bilberry สกัดจากผลิลเบอรี่ ช่วยบำรุงสายตาและต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
- Harris Fish Oil 1000 E น้ำมันปลาทะเลน้ำลึก อุดมไปได้กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน
- Harris Evening Primrose Oil 1000 น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสอุดมไปด้วยวิตามิน E บำรุงผิวพรรณ และอาการต่างๆสำหรับสตรี
แต่ตัวต้าเอง เลือกซื้อมาลองทานก็เป็นเจ้า 2 ตัวนี้เลยครับตัว Ginkgo และ Fishoil ครับ ราคาก็ไม่แพงนะครับ น้ำมันปลาขนาด 80 เม็ด ราคา 890 บาท ส่วนขวด Ginkgo ขนาด 60 เม็ด ราคาอยู่ที่ 649 บาท ถือว่าไม่แพงเกินไปนะครับ ราคากำลังดีครับ
มาลองดูเม็ดยาจากเจ้า 2 ขวดนี้กันบ้าง ตัวน้ำมันปลาเป็นแคปซูลใสครับ ขนาดอาจจะดูใหญ่สำหรับคนไม่เคยกินนะครับ อันนี้เพื่อนต้าบอกเพราะเพื่อนต้าไม่เคยกันครับ แต่ต้าเลยจุดนั้นมาแล้วครับ ฮ่าๆๆๆ เพราะฉะนั้นสบายมาก ส่วนของขวดจิงโก๊ะ เป็นเม็ดสกัดครับ
หลังจากกินมาแล้ว 1 เดือน
อันนี้ต้องเล่าให้ฟังก่อนนะครับว่า ต้าเป็นโรคลมชักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการบำรุงร่างกาย ต้าเลยต้องบำรุงมากกว่าเขาเพื่อนเป็นพิเศษเลย ทั้งการกินหรือการออกกำลังกาย(ออกแรงไม่ได้อีก วู้) ดูแลจัดการกันเป็นพิเศษ หลังจากกินมา 1 เดือน บอกตามตรงนะครับ...ยังไม่เห็นผลอะไรเลย อ้าว.....จริงครับ แต่ว่าอย่าเพิ่งตกใจนะครับ เพราะการกินวิตามินมันไมไ่ด้หมายความว่ามันจะดีขึ้นทันควันทันตานะครับ ถ้าดีทันตาแบบวันวสองวัน อันนี้น่ากลัวแล้วครับ แต่ถ้าถามว่ามีอะไรเปลี่ยนไปไหม? มันก็มีนะครับ สุขภาพดีขึ้น เดี๋ยวนี้ตื่นเช้าๆก็สดชื่นนะครับ หน้าตาก็ไบร์ทจนหลายๆคนทักเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหมนะครับ แต่ที่เห็นชัดๆ คือ ช่วงที่เขากำลังฮิตป่วยๆกัน เราก็รอดมาได้เฉยเลย อันนี้ก็แอบชื่นชมว่าคงจะเป็นเพราะเจ้า 2 ขวดนี้ด้วยแหละครับ
ส่วนถ้าถามว่าจะซื้อต่อไหม? ต้าว่าต้าซื้อนะ เพราะว่ามันไม่แพงเกินไป คือ อาจจะไม่ได้เห็นผลทันตาก็จริง แต่อย่างน้อยช่วงทำงานยุ่งๆวุ่นวาย เราอาจจะลืมดูแลตัวเองไป เจ้าพวกนี้ก็คอยซัพพอร์ตเราได้ดีเลย ต้าว่ามีตัวช่วยก็ดีกว่านะครับ จริงไหมล่ะครับ อย่างน้อยก็ดีกว่ารอให้ป่วยแล้วค่อยมากินตอนนั้น อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้นะครับ
ใครสนใจอยากดูรายละเอียดเพิ่มเติม ก็เข้าไปดูกันได้เลยครับที่
https://www.facebook.com/harristhailandinfo?fref=ts
หรือ instagram.com/Harrislifesciences
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น