มาหาวิธีฝึกภาษาอังกฤษ ให้ Speak English คล่องๆกันเถอะ

สวัสดีครับเพื่อนๆ

วันนี้ขอเขียนบล็อกแบบดีๆมีสาระ(แบบจริงๆจังๆ)สักหน่อยดีกว่า ถ้าพูดถึงภาษาอังกฤษกันแล้ว ยอมรับครับว่าคนไทยหลายๆคนนั้นไม่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ ทั้งๆที่เราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษกันตั้งแต่เด็กน้อยเบบี๋ยอดยาหยีเลย แต่!...ทำไมเราถึงพูดไม่ได้ล่ะ เจอฝรั่งทีไรก็แพ้บายทุกที ทั้งที่ตอนเรียนก็ได้เกรด 4 นะเฮ้ย แต่ฝรั่งปุ้บ..พัง!!!

วันนี้ต้าก็เลยอยากแบ่งปันเทคนิคและวิธีการฝึกภาษาด้วยตัวเองมาฝากครับ คือ บอกก่อนว่าจริงๆแล้ว ก็ไม่ได้เก่งเชี่ยวชาญอะไรขนาดนั้นนะ แต่แค่รู้สึกว่าวิธีที่เราเคยได้รับคำแนะนำและนำมาใช้มันเวิร์คก็เลยอยากแบ่งปันกันนะครับ 


มันเริ่มที่ช่วงก่อนสอบปลายภาค ม.4 เทอม 1 จะมีโมเม้นต์นึงที่อยู่ดีๆก็รู้สึกว่า "เฮ้ย เราเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็กเลย ทำไมถึงได้แค่ I'm fine, Thank you. And you? อยู่เลยเนี่ย"(ไม่ใช่ชื่อหนังนะ ฮ่าๆๆๆ) ที่ท่องๆทุกวันก็เหมือนเอาไว้ท่องแค่สอบเอง คิดในใจแค่นั้นก็ใจพังไปแล้ว นึกเลยว่าถ้ายังอยู่แบบนี้ ลำบากแน่นอน ก็เลยหาวิธีแบบลูกมั่วของเราและคำสอนจากอาจารย์หลายท่านแนะนำด้วย ก็เลยได้เจอกับเทคนิคแรก นั้นก็คือ เพลงภาษาอังกฤษครับ เป็นวิธีง่ายๆและนิยมมาก แต่วิธีที่ต้าได้รับคำแนะนำมา คือ 

- ให้เริ่มจากการฟังจากนั้นก็เขียนเนื้อเพลงที่เราฟังนั้นแหละครับลงไปในสมุด(อารมณ์เหมือนเขียนตามคำบอกนั้นแหละ) 
- แต่ตอนนั้นคิดในใจว่า เอ้า ก็ได้แค่ฟังกับเขียนน่ะสิ ก็เลยฟังแล้วก็ร้องตามเลยครับ 
- ทีนี้พอรอบหลังๆพอฟังแล้ว ร้องแล้ว ก็ค่อยมาเขียนเนื้อเพลงที่เราร้อง พอเขียนเนื้อเสร็จ ก็หาเปิดเนื้อเพลงที่ถูกต้องแล้วก็เขียนแก้ใหม่ให้ถูกแล้วก็แปลครับ 

เห็นไหมล่ะ ได้ครบเลย! ฟัง พูด เขียน อ่าน พอทำบ่อยๆหลายๆเพลงมันก็ได้ศัพท์ด้วย ได้รูปประโยคด้วยครับ ตอนนั้นจำได้ว่าเพลงแรกที่ลองใช้วิธีนี้ฝึกคือ Santa Claus is coming to town เชื่อไหม เพลงง่ายมาก แต่เขียนผิดทุกประโยคเลย ฮ่าๆๆๆ(ใครอยากลองฝึกบ้าง แนะนำเพลง My heart will go on นะครับ เพลงเก่าหน่อยแต่อมตะครับ ฟังง่าย ศัพท์ไม่ยากด้วย)



อีกวิธีที่เคยทำก่อนสอบ Admission คือ ดูหนังครับ ก็จะเริ่มต้นโดยดูหนังที่ชอบ โดยเริ่มฟังเสียงภาษาอังกฤษ แต่ตอนนั้นโง่จริงๆนะ เลยทำใจไม่ได้ ขอซับไทยล่ะกัน ฮ่าๆๆๆ ดูไป 1 รอบเพื่อความบันเทิง(คือดูให้รู้เรื่องนั้นแหละครับ) จากนั้นก็เปิดรอบ 2 อะ แน่นอน! เพราะเราชอบนี่ คราวนี้เราก็ดูซ้ำได้สบายมากไม่มีเบื่อครับ มารอบนี้ก็ปิดซับเลยแล้วก็พูดตาม สนุกล่ะทีนี้! ซึ่งถามว่าเรารู้เรื่องไหม เชื่อว่าทุกคนต้องพอรู้เรื่องราวของหนังบ้างตั้งแต่รอบแรกแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นเราก็จะจำได้ว่าใครพูดอะไรว่ายังไงบ้างถูกไหมครับ คราวนี้แหละ เราจะได้เข้าใจการสื่อสารและฝึกพูดไปด้วยก็จะได้เข้าใจความหมาย ฟังเสียงจากหนังแล้วก็พูดตาม แล้วพอฝึกจนคล่องๆหน่อยก็เปิดซับอังกฤษเสียงอังกฤษเลย คราวนี้ก็เห็นรูปประโยคเลยครับ แล้วก็พูดออกเสียงไปเลย อยู่คนเดียวพูดคนเดียวเลย ไม่ต้องกลัวอาย ถ้าพูดผิด....Pause แล้วย้อนกลับไปเลยครับ เอาใหม่ พูดใหม่ จุดนี้ถ้าใครอยากลองวิธีนี้ ลองเริ่มที่การ์ตูนนะครับมันจะได้ง่ายหน่อย ภาษาเขาก็มีรูปประโยคที่เข้าใจ ไม่ยากเกินไป (ตอนนั้น ของพี่เลือก Toy Story ภาคแรกครับ ไม่ยากไปนะ กำลังพอไหว ...To infinity, and beyond!) สิ่งที่ได้รับคือ คราวนี้เราจะเริ่มชินกับการฟังภาษาอังกฤษครับ แล้วรูปประโยค การพูด สุดท้ายเราจะไม่ต้องไปนั่งท่องจำโครงสร้างรูปประโยคให้เสียเวลาเลย เราจะจำรูปประโยคจากการใช้และฝึกพูดไปโดยอัตโนมัติเลย แล้วพอเราพูดจนชิน ฝึกพูดจนเข้าใจ สุดท้ายเราจะจำรูปประโยคเหล่านั้นได้ไปเองโดยอัตโนมัติครับ



ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีฝึกที่อยากลองแบ่งปันและลองนำไปฝึกกันนะครับ เพราะมันยังมีวิธีเรียนรู้อีกหลากหลายวิธีเลย เพียงแค่เราอย่าบอกว่าตัวเองทำไม่ได้ครับ เพราะถ้าบอกว่าทำไม่ได้ มันก็จะไม่ได้จริงๆ พรุ่งก็ไม่ได้เหมือนกัน มะรืนก็ไม่ได้เหมือนกัน จนสัปดาห์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า ศักราชหน้าก็จะไม่ได้ต่อไป... เพราะฉะนั้นหยุดครับ!...แล้วคิดใหม่ ใครจะดูถูก จะขำ ว่าเราดัดจิตก็ช่างเขา เพราะวันที่เราสะใจที่สุดคือวันที่เราหันไปพูดภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจใส่เขาอย่างเมามัน(และรู้เรื่องด้วยนะ 😆😆😆) สู้ๆนะครับทุกคน ทุกคนทำได้ครับ ขอแค่เอาชนะใจที่บอกว่าตัวเอง "ทำไม่ได้" ลบออกไปให้ได้ครับ

มาเตรียมพร้อมรับ AEC ไปด้วยกันนะครับ

ความคิดเห็น