Big Game หนังบู๊สุดมันเรื่องล่าสุดของ แซมมวล แอลแจ็คสัน เรื่องราวของเด็กน้อยวัย 13 ปีที่เติบโตในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของฟินแลนด์ ในหมู่บ้านมีพิธีหนึ่งที่เด็กชายอายุ 13 ปีทุกคนจะต้องเข้าป่าไปเพื่อล่าสัตว์มาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเติบโตเป็นชายหนุ่มเต็มตัว ระหว่างที่เขากำลังออกล่าสัตว์อยู่นั้น บังเอิญพบกับเหตุการณ์เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเข้าทำให้เขาได้พบกับประธานาธิบดีของสหัรัฐอเมริกา พวกเขาจึงตัดสินใจเดินทางเพื่อหาทางออกจากป่านี้ ก่อนที่จะรู้ตัวว่ามีคนกำลังตามล่าประธานาธิบดี...
ถือเป็นหนังเอคชั่นที่มาเงียบๆได้ใจไปไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับ Big Game เพราะถือว่าสนุก มัน เหนือความคาดหมายมากๆ! ตอนแรกที่ดูยอมรับเลยครับว่าไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คิดว่าเป็นหนังเอคชั่นบู๊กระจาย แต่พอได้ดูแล้ว จริงๆเรื่องนี้เป็นหนังครอบครัวนะครับ แต่เป็นหนังครอบครัวสไตล์ Die Hard คนอึดตายยากจูเนียร์ครับ เนื้อเรื่องการต่อสู้อาจมีฉากยิงและฆ่ากันบ้างแต่ไม่หนักข้อเท่าไหร่ คือ ไม่ถึงขั้นเลือดสาดเต็มหน้าจอขนาดนั้นครับ (ถึงจะบอกว่าไม่หนักแต่ก็มีฉากความรุนแรงอยู่บ้าง ยังไงผู้ปกครองก็ควรให้คำแนะนำด้วยนะครับ) และด้วยความที่เขาพยายามทำให้เป็นหนังครอบครัวเนี่ยแหละครับ ทำให้ฉากต่อสู้เลยยังไม่ดุเดือดถึงใจเท่าไหร่นัก ถ้ามองเป็นข้อเสียก็อาจจะใช่นะครับ ทำให้บางฉากที่ดูแล้วเรารู้สึกว่าน่าขยี้ได้มากกว่านี้อีก สู้กันสนุกกว่านี้ได้อีก มันเลยกลายเป็นออกมาไม่สุดเท่าไหร่ ไม่ถึงขั้นเลวร้ายนะครับแต่เอาจริงๆอย่างต้าที่ไม่ใช่คอเอคชั่นดูแล้ว สำหรับต้าฉากต่อสู้อาจจะดูสั้นไปนิดแต่ก็ซัดกันน่วมอยู่เหมือนกันนะ คอเอคชั่นไม่น่าจะเสียอรรถรสมากเท่าไหร่ ความยาวของหนังอยู่ที่ 90 นาทีครับไม่มากไม่น้อยเกินไป ใครมีลูกชายพาไปดูคงมันในอารมณ์ไม่น้อยเลย ดูหนังตามประสาครอบครัวก็สนุกไปอีกแบบนะครับ
ประเด็นในการนำเสนอของ Big Gameเองก็น่าสนใจมากๆอยู่เหมือนกันนะครับ ทั้งประเด็นของความหมายของการโตเป็นผู้ใหญ่ ครอบครัวหรือประเด็นจิกกัดประเทศมหาอำนาจที่แสบๆคันๆมากเลยทีเดียว สำหรับนักแสดงนำอย่างลุงแซมมวล แอล แจ็กสัน เรื่องนี้เล่นเอาลุงแกน่วมน่าดูเลย เพราะไล่ล่ากันระห่ำสุดๆ(แถมลุงแกต้องรับบทเป็นฝ่ายถูกล่าด้วยสิ) ส่วนเจ้าหนู ออนนิ โทมาริ นอกจากหน้าตาที่ดูซื่อๆแล้ว ฝีมือการแสดงและบู๊เอคชั่นนี่ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ น่าติดตามมากอีกคนนึงเลยทีเดียว ไม่แน่นะ...พ่อหนูนี่อาจจะได้เป็นเอคชั่นสตาร์คนต่อไปก็ได้ ใครจะรู้
การเติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น หลายๆคนมองและเข้าใจว่าการโตเป็นผู้ใหญ่ คือ การที่เรามีร่างกายแข็งแรง ตัวโต มีสติปัญญาฉลาดขึ้น และตัวเลขอายุที่มากขึ้น แต่เชื่อไหมครับว่าการเป็นผู้ใหญ่ที่แท้จริงนั้นมีสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องทำและรักษามันไว้ให้ได้ นั้นก็คือ ความรับผิดชอบนั้นเองครับ อย่างที่หลายๆคนเข้าใจลักษณะทางกายภาพก็เป็นส่วนหนึ่งครับ แต่การที่เราจะเป็นผู้ใหญ่จริงๆได้ เราจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าเมื่อสมัยเราเป็นเด็กครับ เราต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน รับผิดชอบต่อการดูแลงานในครอบครัว รับผิดชอบต่อสังคม รับผิดชอบต่อตัวเอง อธิบายง่ายๆว่าความรับผิดชอบก็เหมือนก็ความรู้สึกที่เราจะต้องดูแลทุกสิ่งอย่างทั้งงาน ความรัก ครอบครัว สุขภาพและทุกสิ่งในชีวิตให้ดีที่สุดไม่ปล่อยปะละเลยสิ่งใดจนต้องสูญไปนั้นเอง
ถึงแม้ว่าเราจะร่างกายสูงใหญ่ ดูน่าเกรงขาม แต่ข้างในกลับขาดความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเองและสังคม เราคงได้เขียนไว้กลางหน้าผากว่า “โตแต่ตัว” แน่นอน วันนี้ เรามาลองสำรวจตัวเองกันนะครับว่าเราโตพอที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วหรือยัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น