[ApoLife] พักร้อนเฉพาะกิจ หนีความวุ่นวายจากเมืองหลวงมาหย่อนใจริมแม่น้ำเจ้าพระยากับ Buddy Oriental Riverside ปากเกร็ด
สวัสดีครับเพื่อนๆ
ช่วงนี้เบื่อๆกับงาน ต้องวุ่นวายปิดยอดปิดงบ อยากหนีไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดซะจริงๆ แต่ก็นะ…เวลาไม่ค่อยจะมี เพราะฉะนั้นขอหนีไปเที่ยวแบบใกล้ๆกรุงเทพ แต่ได้สัมผัสธรรมชาติแบบสดชื่นๆสักหน่อยดีกว่า ว่าแล้วก็เปิดเน็ต ถามอากู๋ทันที ก็เลยไปจึ๊กถูกใจกับที่นี้เลยครับโรงแรม Buddy Oriental Riverside ปากเกร็ด ครับ
ต้องแอบบอกนิดนึงครับว่าทริปนี้ไปแบบฉุกละหุก เลยลืมกล้องไว้ที่บ้าน ภาพที่เห็นนี้ คือ ถ่ายจากน้องไอสเหลือง(Iphone 5c) อาวุธประจำกายต้านี่แหละครับ ภาพกลางคืนเลยไม่งามเท่าไหร่(แอบหงุดหงิดตัวเองว่าลืมกล้องได้ยังไงเนี่ย!) เอาเป็นว่าดูภาพแบบชิลๆ รีวิวแบบบ้านๆไปก่อนนะครับ
การเดินทางมาไม่ยากเลยครับ มาทางแยกปากเกร็ดและกลับรถใต้สะพานปุ้บก็จะเจอซอยวัดกู้ครับ ตรงเข้ามาเรื่อยๆก็จะเจอป้ายโรงแรม Buddy Oriental Riverside Pakkret เลยหาไม่ยากครับ แต่อย่างที่ต้ามาก็แบ็กแพ็คมาเลยครับ นั่งรถมาลงฝั่งตรงข้ามพันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ขึ้นรถตู้เดอะมอลล์-ปากเกร็ดสิบบาทตลอดสาย จากนะนั้นจะโบกเท็กซี่ นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือจะติดต่อทางโรงแรมมารับก็ได้นะ (อันนี้ ขอแอบเอาแผนที่จากเว็บเขามาแปะไว้ด้วยครับ)
หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับชื่อโรงแรมเท่าไหร่นะครับ แต่ถ้าบอกว่าร้านอาหารสองฝั่งคลอง เชื่อว่าเพื่อนๆบางคนอาจจะต้องร้อง “อ้อ” อย่างแน่นอน เพราะว่าโรงแรมกับร้านอาหารสองฝั่งคลองอยู่ที่เดียวกันเลยครับ ชื่อเสียงของร้านอาหารสองฝั่งคลองคงไม่ต้องสาธยายมากเลยครับ (อายุและชื่อเสียงยาวนานการันตีได้)
เอาล่ะ ไหนๆก็มาพักที่นี้ก็ขอทัวร์หน่อยแล้วกันนะครับ สำหรับที่โรงแรมนี้มีทั้งหมด 3 ชั้นครับ ก็จะมีห้องพักแบบต่างๆให้เลือก สามารถเลือกมุมห้องที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ด้วย มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง 2 สระ สปา ฟิตเนส คอร์ทเทนนิส รวมถึงโซนการจัดงาน อย่างงานแต่งงาน ประชุม หรือปาร์ตี้ด้วย สไตล์การตกแต่งที่นี้ก็เป็นแนวออกย้อนยุคๆหน่อยครับ เพื่อให้ได้บรรยากาศที่เข้ากันกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้ครับ เราเองเวลามาพักผ่อนก็รู้สึกสบายๆครับ บรรยากาศเป็นกันเอง เหมือนได้มาเที่ยวแบบสัมผัสธรรมชาติไปด้วยในตัวนะครับ
บรรยากาศร่มรื่นย์ สดชื่นใช้ได้เลยครับ ใครที่ชอบว่ายน้ำในบรรยากาศดีๆ น่าจะถูกใจครับ เพราะสระว่ายน้ำชั้น 1 หลังล็อบบี้จะให้บรรยากาศเหมือนว่ายน้ำในหมู่แมกไม้ ส่วนชั้น 2 ก็จะเป็นสระกลางแจ้งครับ มีป้อมปราการไว้สำหรับให้ขึ้นไปเก็บภาพสวยๆ ดูวิวงามๆริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลยครับ
นอกจากร้านอาหารสองฝั่งคลองแล้ว ยังมีร้านอาหาร Pazzo เป็นร้านอาหารอิตาเลียน บรรยากาศใช้ได้เลยครับ น่าจะชิลเหมือนกันครับ
ถัดมาเป็นหอพระธรรมวารี เป็นหอพระที่มีน้ำล้อมรอบ ให้แขกผู้มาเยือนได้กราบไหว้ด้วยครับ บรรยากาศสงบเงียบ เหมาะแก่การไหว้พระมากๆ(แต่ต้าเป็นคริสต์นะ ฮ่าๆๆ แต่ก็ขอเก็บภาพมาฝากล่ะกัน เพราะสวยจริงๆครับ)
แว่บแอบดูสปาบ้างดีกว่า ที่นี้ก็มีหลายรูปแบบครับ ทั้งการนวดไทย สปาความงาม รวมถึงฟิตเนสด้วยครับ สำหรับฟิตเนสถ้าเข้าพักที่นี้ก็สามารถใช้บริการได้เลย แต่สำหรับสปาและนวดก็ต้องเสียค่าบริการเพิ่มครับ
เอาล่ะๆ อดใจไม่ไหวขึ้นไปดูห้องพักกันดีกว่าครับ ห้องพักของต้าอยู่ที่ชั้น 2 ครับ เป็นห้องพักฝั่งแม่น้ำเลย วิวสวยมากๆ เปิดประตูระเบียงออกมาก็จะเห็นสระว่ายน้ำ บรรยากาศดี๊ดี งามสุดๆไปเลยครับ ภายในห้องก็ตกแต่งตามสไตล์แบบย้อนยุคไม่หลุดธีมเลยทีเดียว ให้บรรยากาศสบายๆเข้ากับบรรยากาศริมน้ำมากๆครับ
เดินเข้าไปดูห้องน้ำกันดีกว่า เป็นห้องน้ำแบบฝักบัวครับ ตกแต่งด้วยหินอ่อน ของอำนวยความสะดวกก็มีครบแบบไม่ต้องพกมาให้หนักกระเป๋าเลย ทั้งสบู่ ยาสระผม ครีมนวด ไดร์เป่าผม แค่เตรียมสบู่ยาสีฟันมาก็พักได้เลยครับ
มาดูของอำนวยความสะดวกกันบ้าง สำหรับของอำนวยความสะดวกภายในห้องก็จะมีตู้เย็นให้ เป็นพื้นฐานเลยครับ ตู้เย็น ตู้เซฟ ทีวี อินเตอร์เน็ต เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว(ในราคาห้องจะมีน้ำดื่มให้ แต่อื่นๆก็เป็นออพชั่นเสริมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนะครับ ^_^)
เดินเล่นอยู่นานพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เลยขอเก็บภาพยามเย็นมาฝากหน่อยก็แล้วกันนะครับ แน่นอนครับ แดดร่มปุ๊บ งานไฟเราต้องมาครับ
เอาล่ะ หิวๆเพลียๆ ได้เวลากินล่ะค้าบบบบบบบ แน่นอนครับวันนี้มาถึงที่นี้ทั้งที ก็ต้องกินกันที่ร้านครัวสองฝั่งคลองอยู่แล้ว ร้านอาหารสองฝั่งคลองมีอยู่ 2 โซนครับผม มีทั้งแบบ Outdoor ริมน้ำ หรือจะนั่งทานข้างในได้อารมณ์เรโทรแบบชิลๆก็ได้ มีโซนบาร์ให้นักคนอยากชิลได้นั่งด้วย เจ๋งมากกกกก แต่ขออนุญาติเก็บภาพโซนด้านนอกมาฝากนะครับ เพราะงามกว่าเยอะเลย 5555 สไตล์ของอาหารที่นี้แปบแบบฟิวชั่นครับ มีทั้งอาหารไทยและต่างประเทศฟิวชั่นกันครับ มีดนตรีสดแสดงด้วย ชิลมาก ใครมาเป็นคู่รักก็โรแมนติกสุดๆ กินข้าวริมน้ำ บรรยากาศดีๆใต้แสงจันทร์ บ๊ระ! เดตในฝันเลย
ที่นี้มาดูอาหารกันบ้างดีกว่าครับ อย่างที่บอกไปว่าอาหารที่นี้เป็นอาหารฟิวชั่นครับ เพราะฉะนั้นเมนูต่างๆที่นำเสนอต้องไม่ธรรมดา แต่ต้าขอเลือกเมนูจานที่เขา Reccomend มานำเสนอให้ทุกๆคนได้ดูแล้วกันนะครับ
เริ่มที่จานแรกกันเลยครับกับ “แซลม่อนจี๊ดจ๊าด” ได้อารมณ์แบบซาชิมิทานกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดสุดแซ่บ อร่อยมากครับ
จานที่ 2 มาต่อกันที่ “ปลาช่อนผัดพริกขิง” ได้รสพริกแกงเปรี้ยวหวานสามรส อร่อยดีครับ เรื่องความสดการันตีได้เลย(อยู่ริมน้ำขนาดนี้ไม่สดก็บ้าล่ะ) ในจานเสิร์ฟพร้อมไข่เค็มและถั่วฝักยาวลวกครับ ทานเคียงกัน อร่อยใช้ได้เลย
ไปที่เมนูน้ำๆบ้างดีกว่ากับ “ต้มแซ่บเอนหมูตุ๋น” แซ่บถึงใจครับ เอนหมูตุ๋นกำลังอร่อยเลย ปกติไม่ค่อยชอบกินเอนเท่าไหร่นะครับ แต่แค่ชิมคำแรกก็ยอมเลย
ช็อตนี้ขอซูมให้ถึงเอนเลยครับ
มาถึงจานเด็ดที่มาแล้วไม่สั่งไม่ได้ กับเมนูกุ้งแม่น้ำเผาครับ บอกเลยว่าสดและอร่อยมากกกกกกราคานั้นไม่ตายตัวนะครับ เพราะว่าคิดราคาตามน้ำหนักกุ้งครับผม ถ้าอยากเช็คราคาก็อาจจะโทรเข้ามาเช็คราคาก่อนก็ได้ครับ พูดแล้วไม่เห็นภาพ ดูรูปดีกว่าครับ
จานสุดท้าย แบบว่า…ไม่อิ่มครับ ฮ่าๆๆๆ เลยสั่ง “วุ้นเส้นทะเล” มากินปิดท้าย
หลังจากกินอิ่มหน่ำแล้ว สบายแฮครับ ราคานี่ถ้าเทียบแล้วก็ไม่แพงมากครับ เทียบกับรสชาติและวัตถุดิบก็เยี่ยมเลย(จะหนักกุ้งแม่น้ำเนี่ยแหละครับ ฮ่าๆๆๆ แต่ฟินนะ) จริงๆอยากพาเข้าไปชมโซนบาร์นะครับ แต่น้องไอของต้า ถ่ายข้างในมาแล้วไม่สู้เลยไม่ได้เอาลงกลัวจะดูแล้วเซ็งกันนะครับ เลยขอเก็บมุมนึงมาฝากแล้วกันนะครับ เพิ่งทราบว่าร้านนี้มีมานานมากๆแล้ว แถมยังมีรางวัลการันตีด้วย ใครที่อยากมาทานร้านอาหารริมน้ำ ชิลๆ บรรยากาศดี ดูแล้วโรแมนติก ควรต้องมาสัมผัสเลยครับ ยิ่งถ้าใครชอบของเก่านะจะถูกใจกว่าเดิมด้วยนะ เพราะมีของเก่าแบบย้อนยุคตั้งโชว์ให้ดูเพียบ!
เดินเล่นชมวิวไปเรื่อยก็ถึงเวลานอนซะแล้ว แอบงีบหน่อยแล้วกันนะครับ ปิดท้ายวันนี้กับภาพยามค่ำคืนของที่นี้ครับ
เอาละ นอนแปบเดียว ตื่นมารับอากาศสดชื่นสดใสในเช้าวันใหม่ดีกว่า(นอนแปบเดียวตื่น ฮ่าๆๆๆ)
ได้เวลาอาหารเช้าแล้วครับ เย้! สำหรับอาหารเช้าอันนี้ก็จะมีรวมอยู่ในราาห้องพักอยู่แล้วครับ ตื่นมาทานอาหารเช้าได้เลย สบายๆ สถานที่รับประทานจะอยู่ร้านสองฝั่งคลองโซนด้านในครับ ชิลไหมล่ะ!!! มาดูบรรยากาศภายในร้านแบบตอนกลางวันบ้างดีกว่า สำหรับร้านสองฝั่งคลองถ้าใครอยากมาทานตอนเที่ยง เขาเปิดบริการเหมือนกันครับ
อาหารเช้าของที่นี้มีให้เลือกทานหลายอย่างครับ ทั้งแบบ American Breakfast หรือไทยๆแบบบ้านเรา แต่สำหรับต้า..ขากินอยู่แล้วก็เลยฟาดมันทุกอย่างเลย ฮ่าๆๆๆ
จบทริปสำหรับการหนีไปเที่ยวพักร้อนแบบไม่ไกลเมืองไปแล้ว เป็นยังไงบ้างครับ หวังว่าคงจะถูกใจเพื่อนๆกันนะครับ ^_^ จริงๆถ้าเพื่อนๆมีแรงมีพลังก็อาจจะนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวเกาะเกร็ดต่อก็ได้นะครับ นั่งกลับมาปากทางซอยวัดกู้แล้วก็นั่งเรือข้ามฟากต่อไปได้เลยครับ
ใครที่สนใจอยากไปบ้างแวะกันไปได้เลยครับที่โรงแรม Buddy Oriental Riverside ปากเกร็ด (เข้าไปดูข้อมูลในเว็บได้เลยครับ http://www.buddyriverside.com/) วันนี้ต้องขอตัวก่อน พบกันใหม่บล็อกหน้าครับ
edit @ 11 Dec 2014 11:21:43 by ApotaStyle
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น